ไม่อยากให้ สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต “แบตเสื่อม” อย่าทำ 3 สิ่งนี้เด็ดขาด

สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ไม่ว่าจะซื้อมาในราคาถูกหรือแพงแค่ไหน สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือ อยากให้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ใช้งานได้เป็นเวลานานๆ แต่ด้วยสภาวะที่เทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจำเป็นต้องมีแอพพลิเคชั่นที่ตอบสนองความต้องการ แต่การที่เราใช้งานเป็นเวลานานจะทำให้ “แบตหมดเร็ว” และยิ่งถ้าต้องการเปลี่ยนแบตที่เสื่อมออก สมาร์ทโฟนบางรุ่น อย่าง iPhone , iPad , HTC M8 ก็ไม่สามารถเปลี่ยนเองได้ เพราะฉะนั้นเราจำเป็นต้องถนอมแบตให้ไว้ได้นานที่สุด ถ้าไม่อยากให้แบตเสื่อมเร็ว ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรม 3 อย่างนี้ครับ

1.  อย่าใช้งานสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจนร้อนเกินไป

อย่าใช้งานสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตจนร้อนเกินไป การใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเวลานานจะทำให้อุณหภูมิของแบตเตอร์รี่สูง แบตเตอร์รี่อาจเสื่อมสภาพได้เร็วยิ่งขึ้น และจะทำให้แบตเตอรี่คายประจุไวขึ้น ตามไปด้วย เมื่อเครื่องเริ่มมีความร้อนควรปล่อยไว้สักพักให้เครื่องเย็นลง ค่อยกลับมาใช้งานใหม่ วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น

  • ควรปิดการใช้งาน 3G เมื่อไม่ใช้งานเพราะ 3G จะเป็นการเปิดการเชื่อมต่อ Internet อยู่ตลอดเวลา
  • ไม่ควรใชงานสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ในสถานที่ร้อนจัด หรือกลางแจ้งที่มีอากาศร้อน
  • ไม่ควรใช้งานขณะที่ชาร์จแบต เพราะจะทำให้แบตเตอร์รี่ทำงานมากขึ้น และอาจเกิดอันตรายขึ้นได้
  • ไม่ควจใช้ Case ซิลิโคนที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน เพราะจะสะสมความร้อนแล้วย้อนไปกลับไปที่ตัวแบตเตอร์รี่

2.  อย่าปล่อยให้แบตเตอร์รี่หมดจนเปิดเครื่องไม่ติด

อย่าปล่อยให้แบตเตอร์รี่หมดจนเปิดเครื่องไม่ติด แบตเตอรี่แบบ Lithium-Ion เป็นแบตเตอรี่ที่นิยามใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน โดยมีคุณสมบัติที่สามารถชาร์จซ้ำได้ (Rechargeable) แต่ปัญหาคือ แบตเตอร์รีแบบ Lithium-Ion นี้ ถ้าปล่อยให้หมดแบบเปิดเครื่องไม่ติดอยู่บ่อยๆ จะทำให้แบตเสื่อมสภาพและคายประจุออกไปเรื่อยๆ และจะทำให้ความจุแบตลดน้อยลง และทีนี้เราก็จะใช้งานได้น้อยลงเช่นกัน วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น ให้สังเกตแบตเตอร์รี่ว่า ถ้าแบตเตอร์รี่ต่ำประมาณ 30-40% ควรต้องชาร์จไฟได้แล้วครับ

3. ไม่ควรใช้สายชาร์จ หรือที่ชาร์จปลอม และ Power Bank ที่ไม่ได้มาตรฐาน

ไม่ควรใช้สายชาร์จ หรือที่ชาร์จปลอม และ Power Bank ที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นที่รู้กันดีครับ สำหรับสายชาร์จหรือ ที่ชาร์จปลอมที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ ก็คือ การเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากสายชาร์จปลอม เพราะสายชาร์จปลอมนั้น ผลิตด้วยต้นทุนที่ต่ำ จ่ายไฟไม่สม่ำเสมอ บางทีน้อย บางทีมากจนอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เพราะไฟไม่สม่ำเสมอนี่แหละครับ ทำให้แบตเตอร์รี่ของเราเสื่อมลงได้ง่าย หากผู้ใช้งานซื้อที่ชาร์จปลอมในราคา 250 บาท อาจใช้งานได้ไม่ถึงเดือนก็พังแล้วครับ จนต้องซื้อชิ้นที่ 2 อีก 250 บาท ก็เท่ากับ 500 บาท เทียบกันแล้ว หากซื้อที่ชาร์จของแท้ในราคา 690 บาท ใช้งานได้ตลอด ซื้อของแท้ดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะได้ไม่คุ้มเสีย ที่มา – notebookspec